บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ประเทศเมียนม่าร์

 ประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มวิทยากรของคุณลุงเคยทำเรื่องไปขอสอนที่ประเทศเมียนม่าร์ครั้งหนึ่ง

ลูกศิษย์ของคุณลุงคนหนึ่ง มีภรรยาเป็นชาวพม่า และทำมาหากินอยู่ในประเทศเมียนม่าร์

แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ รัฐบาลเมียนม่าร์ไม่อนุญาตให้สอนวิชาธรรมกายในประเทศของเขา

ผมไม่รู้เหตุผลลึกๆ ว่าทำไม่จึงเป็นอย่างนั้น เพราะ ผมไม่ได้เป็นผู้ติดต่อประสานงาน  แต่ผมคิดว่า ก็ประเทศพม่าเขาสอนแบบยุบหนอพองหนอ 

มีรายได้เข้าประเทศเพราะการสอนแบบนี้ ปีหนึ่งๆ หลายเงินเหมือนกัน  เราจะเข้าไปขอสอนการปฏิบัติธรรมแบบของไทยๆ รัฐบาลเขาจะยอมให้โง่หรือ..

แต่ตั๋วเครื่องบินซื้อแล้ว จ่ายเงินให้ทัวร์ไปแล้ว  ทุกคนก็เลยทำใจว่า “ไปเที่ยว” ก็แล้วกัน

แต่ผมคนเดียว ผมมีความเชื่อว่า “เราจะต้องสอนวิชาธรรมกายได้”  ผมจึงเตรียมอุปกรณ์การสอนไปครบ

ไปเที่ยวที่ไหน ผมก็หาทางจะสอนเรื่อยไป  ไม่สำเร็จมาหลายแห่งแล้ว ไปสำเร็จที่พระธาตุอินทร์แขวน

ที่พระธาตุอินทร์แขวนนี่ เราต้องจอดรถทัวร์ของเราไว้ที่ด้านล่าง และต้องขึ้นรถดั้มป์ ขึ้นเขา คณะของผมไปถึงโรงเรียนพม่าเลิกพอดี

คนอื่นเขาก็นั่งรอรถอยู่ในอาคาร  ผมกับปันยุทธ์เดินออกมาเล่น ดูนักเรียน มีนักเรียน 2-3 คน เดินเข้ามาหาเรา  แล้วทักทายเป็นภาษาไทย

พวกนี้ ฟังภาษาไทยรู้เรื่องค่อนข้างดี แต่พูดไม่ชัดนัก  ที่เขาพูดภาษาไทยได้ก็เพราะ คนไทยไปเที่ยวมากที่สุด ครูเขาก็เลยสอนภาษาให้บ้าง เขาคุยกับคนไทยบ้าง

เด็กพวกนี้ พูดทักทายได้หลายภาษา

ผมก็คุยกันไป ปรากฏว่า นักเรียนพวกนี้ พ่อแม่ทำงานอยู่ที่พระธาตุอินทร์แขวน ขายของพวกนักท่องเที่ยว

พวกเขาต้องนั่งรถไปกับเรา  เด็กเขานั่งฟรี

ผมเลยปิ๊งไอเดียเลย  ระหว่างนั่งรถขึ้นเขา ใช้เวลานานเกือบๆ ชั่วโมง  ผมบอกเด็กๆ ว่า  กลางคืนให้ตามเพื่อนๆ ไปมากๆ  ผมจะสอนปฏิบัติธรรมให้ แล้วจะแจกเงินทุกคน

เด็กๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส เกณฑ์พวกไปกันเยอะเลย


คนที่กล้องคือ ปันยุทธ์ คนถือดวงแก้วคือ ดร. เพชร  คนถือภาพ 7 ฐานคือ ผม  คนสอนคือ หมอนิพนธ์  เสื้อดำๆ นั้น คือ ไกด์ของเรา ทำหน้าที่แปล


พวกพม่ากำลังฟัง คุณหมอนิพนธ์อธิบาย

เด็กที่ผมวงกลมสีเหลืองไว้นั่นแหละ คือ เด็กที่ผมคุยด้วย และให้ไปเกณฑ์เพื่อนๆ มาเรียน

ทหารหรือตำรวจก็ไม่รู้ 2 คน ที่สวมเครื่องแบบสีกากี ตอนที่คุณหมอนิพนธ์เริ่มอธิบายนั้น สองคนนี้ เดินมาสังเกตการณ์  ผมนึกในใจว่า “คราวนี้ ติดคุกพม่าแน่ๆ”  ก็รัฐบาลเขาห้ามสอน

แต่ปรากฏว่า พอเห็นคุณหมอนิพนธ์อธิบายฐานของใจ 7 ฐาน  พวกนั้น พวกเขาขอมานั่งปฏิบัติธรรมด้วย  ทีแรกเราตั้งใจจะสอนเด็กๆ ก็เลยสอนผู้ใหญ่ไปด้วย

เหตุผลที่ทหารพม่า หรือจะเป็นตำรวจก็ไม่รู้ มาขอเรียนด้วย จะเปิดเผยทีหลัง



ภาพนี้เป็นภาพตอนวัดผลว่า ใครเห็นดวงธรรม กายธรรม คนพม่ากับคนเขมรนี่เหมือนกัน คือ ยกมือแล้วก็ยกนิ้วชี้ด้วย แปลกดี  คนไทยเราจะยกมือเฉยๆ

ผมเคยไปสอนผู้อพยพชาวเมียนม่าร์ที่แม่สอด  เขาก็ยกมือแบบนี้


ลูกศรสีเขียวนั่น  ไทยนะครับ  เป็นกลุ่มวิทยากรที่ไปเมียนม่าร์ด้วยกัน


ภาพนี้นี่แหละที่ทำให้ไม่ติดคุกที่เมียนม่าร์  ต้องขอขอบคุณคณะธรรมทูตของวัดปากน้ำ ที่นำหนังสือสวดมนต์ไปเผยแพร่ที่นั่น

เป็นหนังสือภาษาไทย แต่มีภาพ 7 ฐานอยู่ในหนังสือ  เขาคุ้นเคยภาพ 7 ฐานอยู่ พอเห็นคุณหมอนิพนธ์อธิบายภาพ 7 ฐานเขาจึงขอเข้ามาเรียนด้วย



วันนั้นมีเด็กมาเรียน 14 คน ผู้ใหญ่ 16 คน จ่ายเงินให้เด็กไปหลายพันจั๊ดเหมือนกัน

หลังจากสอนแล้ว เรายังคงคุยกับพวกผู้ใหญ่อยู่พักหนึ่ง  เขาบอกว่า เขานั่งแบบยุบหนอพองหนอแล้วไม่เห็นจะได้อะไร

พอฝึกแบบวิชาธรรมกาย เขาเห็นดวงธรรมกับกายธรรม  วิชาธรรมกายดีกว่าเยอะ

ที่เขียนไปนี้ ไม่ได้เสียดสีพวกยุบหนอพองหนอเลยนะครับ

สาบานได้


********************************

Dr. Manas Komoltha  (Ph.D. Integrated Sciences)
Faculty of Sciences and Liberal Arts
Rajamangala University of Technology Isan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น